ส่วนผสมทางการตลาดสมัยใหม่
ส่วนประสมทางการตลาด
( Marketing Mix )ของธุรกิจทั่วไปประกอบไปด้วยผลิตภัณฑ์ product) ราคา ( price ) การจัดจำหน่าย ( Place
) และการส่งเสริมการตลาด (
promotion ) หรือที่เรียกว่า
4 P’s แต่ถ้าเป็นธุรกิจบริการจะมีส่วนประสมทางการตลาดเพิ่มขึ้นคือพนักงาน
( people )กระบวนการให้บริการ ( process ) และสิ่งต่าง ๆภายในสำนักงาน (
physical evidence ) รวมเรียกว่า 7P’s ทั้งนี้
เมื่อวิเคราะห์สภาพแวดล้อมการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน พบว่า P ทั้ง 7 P’s นั้นไม่เพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน
เนื่องจากการประกอบธุรกิจในปัจจุบันนั้นต้องเข้าไป เกี่ยวข้องกับชุมชน สังคม
การเมือง
ทำให้ธุรกิจต้องคำนึงถึง P อีก 2 P’s ซึ่งได้แก่ สาธารณชน ( public )
และการเมือง ( political )
โดยมีรายละเอียดของส่วนประสมทางการตลาด
ดังนี้
1.
ผลิตภัณฑ์ (product) ซึ่งได้แก่สินค้า (good)และบริการ(service) ที่ธุรกิจพัฒนาขึ้นเพื่อ
ตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้เกิดความพึงพอใจ นอกจากนี้
ผลิตภัณฑ์ยังรวมไปถึง
ตราสินค้า (brand) การบรรจุหีบห่อ(packaging)
การรับประกัน (guarantee) คุณภาพผลิตภัณฑ์ (quality)
2.
ราคา (price) หมายถึง จำนวนเงินที่ลูกค้าต้องชำระให้กับผู้ขายเพื่อให้ได้รับสินค้าและ
บริการ
โดยธุรกิจต้องกำหนดราคาให้อยู่ในระดับที่ลูกค้าสามารถซื้อได้
3.
การจัดจำหน่าย (place) หมายถึง การจัดการเกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกในการ
ซื้อสินค้าของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้มีความสะดวกสบายสูงสุดด้วยการนำสินค้าและบริการไป ส่งมอบให้กับลูกค้าภายในเวลาที่ลูกค้าต้องการ
4.
การส่งเสริมการตลาด (promotion) หมายถึง การกำหนดแนวทางในการสื่อสารไปยัง
ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเกี่ยวกับสินค้าและบริการ ราคา และข้อมูลอื่น ๆ ของสินค้าและบริการ โดย
มุ่งหมายให้เกิดการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการ
ด้วยการประสมประสานส่วนประสมการส่งเสริมตลาด ซึ่งได้แก่
การโฆษณา การประชาสัมพันธ์ การส่งเสริมการขาย การตลาดทางตรงและการใช้พนักงานขาย
5. พนักงาน (people) หมายถึง
การจัดการบริการอย่างมีประสิทธิภาพด้วยบุคลากรของกิจการโดยเริ่มตั้งแต่การสรรหาคัดเลือก การพัฒนาและฝึกอบรม
รวมไปถึงการจูงใจและปลูกฝังลักษณะที่จำเป็นต่อการให้บริการ
เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าหรือผู้ใช้บริการให้มากที่สุด ได้แก่
ด้านทักษะในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า
การทักทายลูกค้าหรือผู้ใช้บริการ
การขอบคุณลูกค้าหรือผู้ใช้บริการทุกครั้งที่มาใช้บริการ
6. กระบวนการ (process) หมายถึง
การวางระบบและออกแบบให้มีขั้นตอนที่อำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าหรือผู้ใช้บริการมากที่สุด ลดขั้นตอนที่ทำให้ผู้บริโภคต้องรอนาน จัดระบบการไหลของการให้บริการ (service flow) ให้มีอุปสรรคน้อยที่สุด
เนื่องจากการรอคอยการให้บริการนาน ๆ
อาจทำให้เกิดความไม่พึงพอใจได้
โดยยึดแนวคิด One Stop Service ให้ลูกค้าอยู่ที่จุดเดียวคือ บริเวณด้านหน้าเคาน์เตอร์ และให้บริการลูกค้าตามแนวคิดว่า ลูกค้าคือคนที่เรารัก รวมทั้งการพัฒนา SOS
หรือ Standard
of Service นั่นคือ มาตรฐานในการให้บริการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า
7. สิ่งอำนวยความสะดวกในสำนักงาน (physical evidence) หมายถึง
การออกแบบวางผังสำนักงาน
อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในสำนักงาน
การจัดวางโต๊ะทำงาน
เฟอร์นิเจอร์ภายในสำนักงาน กระถางต้นไม้ ฯลฯ ให้เรียบร้อยเป็นระเบียบที่เหมาะสมกับลักษณะของบริษัท
ลูกค้าหรือผู้ใช้บริการจะรับรู้และเข้าใจภาพลักษณ์การให้บริการของกิจการจากสิ่งเหล่านี้
8. สาธารณชน (public) หมายถึงกลุ่มประชาชนหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯโดยบริษัทต้องคำนึงถึงความอยู่ดีกินดีของสาธารณชนและความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน
สุขภาพของสาธารณชน
หากบริษัทฯละเลยหรือมองข้ามจะทำให้เกิดการต่อต้านจากสาธารณชน
และอาจทำให้ลูกค้าโดยทั่วไปร่วมกันไม่ใช้สินค้าของบริษัท ดังนั้นนักการตลาดจึงต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับสาธารณชนซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งของทุกบริษัท เพื่อลดแรงต่อต้านจากสาธารณชน และเพิ่มการสนับสนุนบริษัท
9. การเมือง (political) หมายถึง
การเมืองที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ ซึ่งอาจเป็นกฎหมายหรือระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ
แม้ว่าปัจจัยด้านการเมืองจะถูกกำหนดให้เป็นสภาพแวดล้อมภายนอกของการดำเนินธุรกิจ
แต่บริษัทต้องให้ความสำคัญและปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับการเมืองด้วย
..............................................................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น