วิชาองค์การและการบริหารงานคุณภาพ
หน่วยที่ 1 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับองค์การและการบริหารงานคุณภาพ
วิชาองค์การและการบริหารงานคุณภาพ
หน่วยที่ 1 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับองค์การและการบริหารงานคุณภาพ
** การจัดการหรือการบริหารกิจการต่างๆ จำเป็นต้องมีทรัพยากรอันเป็นปัจจัยพื้นฐานทางการจัดการโดยทั่วไปถือว่าทรัพยากรที่เป็น ปัจจัยสำคัญของการจัดการ มีอยู่ 4 ประการ ซึ่งรู้จักกันในนามของ 4 M ได้แก่
1. คน (Man) เป็นผู้ปฏิบัติกิจกรรมขององค์การนั้นๆ
2. เงิน (Money) ใช้สำหรับเป็นค่าจ้างและค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ
3. วัสดุสิ่งของ (Material) อุปกรณ์ เครื่องใช้ เครื่องมือต่างๆ รวมทั้งอาคารสถานที่
4. การจัดการ ( Management) ความรู้เกี่ยวกับการจัดการ
** ในด้านธุรกิจเอกชนหรือการจัดการธุรกิจ ได้กล่าวถึงปัจจัยการจัดการไว้ว่ามี 6 M โดยเพ่ิมเรื่องตลาดจำหน่ายสินค้าและเครื่องจักรกล แต่ในปัจจุบันปัจจัยของการจัดการยุคใหม่ มีกล่าวไว้ถึง 8 ประการหรือ 8M โดยเพิ่มปัจจัยอีก 2 ปัจจัย คือ ปัจจัยด้านวิธีการทำงานและปัจจัยด้านเวลา มีรายละเอียด ดังนี้
1. คน (Man) เป็นผู้ปฏิบัติกิจกรรมขององค์การนั้นๆ
2. เงิน (Money) ใช้สำหรับเป็นค่าจ้างและค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ
3. วัสดุสิ่งของ (Material) อุปกรณ์ เครื่องใช้ เครื่องมือต่างๆ รวมทั้งอาคารสถานที่
4. การจัดการ ( Management) ความรู้เกี่ยวกับการจัดการ
5. ตลาด (Market) เป็นที่สำหรับจำหน่ายสินค้าและบริการ
6. เครื่องจักรกล ( Machine) ใช้สำหรับผลิตสินค้าและบริการ
7. วิธีการทำงาน (Method) หมายถึง วิธีขั้นตอนในการทำงาน
8. เวลา (Minute) เวลาในการดำเนินงาน
😀😀😀😀😀😀😀😀😀😀😀😀😀😀😀😀😀😀😀😀😀😀😀
การสร้างกลยุทธ์ด้วย
TOWS
Matrix
![]() ปัจจัยภายใน ปัจจัยภายนอก |
จุดแข็ง
(Strength) 1 2 3 |
จุดอ่อน 1 2 3 |
โอกาส
(Opportunity) 1 2 3 |
SO (กลยุทธ์เชิงรุก) |
WO (กลยุทธ์เชิงแก้ไข) |
อุปสรรค
(Threat) 1 2 3 |
ST (กลยุทธ์เชิงป้องกัน |
WT (กลยุทธ์เชิงรับ) |
1. กลยุทธ์เชิงรุก เป็นการจับคู่ระหว่าง
Strength
และ Opportunity (ใช้จุดแข็งร่วมกับโอกาส)
กลยุทธ์ในส่วนนี้มีความสำคัญอย่างมากต่อการเติบโตของธุรกิจ เนื่องจากเป็นกลยุทธ์ที่เน้นสร้างผลลัพธ์ที่ให้ประโยชน์สูงสุด ผ่านการวิเคราะห์จุดแข็งของธุรกิจร่วมกับโอกาสที่เกิดขึ้น เพื่อเป็นการส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันในตลาดให้ดียิ่งขึ้น
2. กลยุทธ์เชิงแก้ไข
เป็นการจับคู่ระหว่าง Weakness และ Opportunity
(ใช้โอกาสลดจุดอ่อน)
ทุกธุรกิจล้วนมีจุดอ่อน ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องกระบวนการดำเนินงาน หรือการที่ธุรกิจยังไม่เป็นที่รู้จักในตลาด โดยบางครั้งการอุดจุดอ่อนอาจเป็นเรื่องของจังหวะเวลา ที่จะเป็นตัวช่วยให้ธุรกิจแก้ไขจุดอ่อนหรือลดทอนจุดอ่อนของตัวเองลงไปได้
3. กลยุทธ์เชิงป้องกัน
เป็นการจับคู่ระหว่าง Strength และ Threat
(ใช้จุดแข็งรับมืออุปสรรค)
เป็นการใช้จุดแข็งที่มีอยู่มาป้องกันหรือหลีกเลี่ยงอุปสรรคที่อาจจะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทรัพยากรบุคคลหรือเครื่องมือในองค์กรก็ตาม เนื่องจากหลายองค์กรที่กำลังเติบโตอย่างมาก มักมีความต้องการใช้จุดแข็งเพื่อขับเคลื่อนกลยุทธ์เชิงรุกเพียงอย่างเดียว จนอาจมองข้ามการนำจุดแข็งมาเตรียมรับมือกับอุปสรรคที่อาจจะเกิดขึ้น
4. กลยุทธ์เชิงรับ
เป็นการจับคู่ระหว่าง Weakness กับ Threat
(แก้ไขจุดอ่อนและเสี่ยงอุปสรรค)
กลยุทธ์แบบนี้จะแตกต่างจากอีก 3 กลยุทธ์ที่กล่าวมาข้างต้น เนื่องจากมีไว้เพื่อรับมือกับสถานการณต่างๆ ที่ถาโถมเข้ามา ไม่ได้ใช้เพื่อหวังมุ่งไปข้างหน้า แต่เป็นกลยุทธ์เชิงรัรบที่มีไว้เพื่อพยุงสถานการณ์ของที่เกิดขึ้นไม่ให้แย่ลง ด้วยการพยายามบรรเทาปัญหาหรือหลีกเลี่ยงไม่ให้ปัญหาเกิดขึ้นเพิ่ม
**************************************
💗💗ส่วนผสมทางการตลาดสมัยใหม่ 💗💗
การบริหารกับการจัดการ เหมือนหรือต่างกัน อย่างไร ???
เมื่อกล่าวถึงคำว่าการบริหารส่วนใหญ่มักจะนึกถึงการบริหารราชการ
คำศัพท์ที่ใช้มี 2 คำ คือ การบริหาร (Administration)
นิยมใช้กับการบริหารราชการหรือการจัดการเกี่ยวกับนโยบาย
ศัพท์อีกคำหนึ่ง คือ การจัดการ (Management) นิยมใช้กับการบริหารธุรกิจเอกชนหรือการดำเนินการตามนโยบายที่กำหนดไว้
อย่างไรก็ตามคำว่า การบริหารกับคำว่า การจัดการใช้แทนกันได้มีความหมายเหมือนกัน
(สมคิด บางโม. 2538 : 60)
นักบริหารและนักวิชาการให้คำจำกัดความของคำว่า
การบริหารหรือการจัดการไว้ต่าง ๆ กันตามทัศนะของแต่ละบุคคลที่สำคัญได้แก่
ไซมอน (“Simon” 1965 : 4) ให้ความหมายไว้ว่า
การบริหาร หมายถึง
การทำงานของบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไปร่วมกันปฏิบัติงานเพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ร่วมกัน
ดรัคเกอร์ (Drucker : 1954 : 12) ได้ให้ความหมายไว้ว่า
การจัดการ หมายถึง ศิลปะในการทำงานให้บรรลุเป้าหมายร่วมกับผู้อื่น
คูนตซ์ และไซริล (Koontz and Cyril. 1972 : 43) ให้ความหมายว่า การจัดการ หมายถึง
การดำเนินงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้โดยอาศัยปัจจัยทั้งหลาย ได้แก่ คน เงิน
วัสดุสิ่งของซึ่งนับว่าเป็นอุปกรณ์ของการจัดการนั้น ๆ
เดล (Dale. 1968 : 43) ได้กล่าวไว้ว่า
การจัดการ คือ กระบวนการจัดหน่วยงานและการใช้ทรัพยากรต่าง ๆ
ให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
จากความหมายดังกล่าวพอสรุปได้ว่า การบริหารและการจัดการเหมือนกันคือ?
การจัดการ (Management) หรืออาจจะเรียกว่า การบริหาร (Administration) หมายถึง ชุดของหน้าที่ต่าง ๆ
ที่กำหนดทิศทางในการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทั้งหลายอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายขององค์กร การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ (Efficient)
หมายถึง การใช้ทรัพยากรอย่างเฉลียวฉลาด และคุ้มค่า ส่วนการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิผล
(Effective) หมายถึงการตัดสินใจอย่างถูกต้อง
และมีการปฏิบัติการได้สำเร็จตามแผนที่กำหนดไว้ ดังนั้น
ผลสำเร็จของการจัดการต้องมีทั้งประสิทธิภาพและประสิทธิผลควบคู่กันไป (Griffin,
1997 4)
สรุปได้ว่า การจัดการ (Management)และการบริหาร (Administration)มีสิ่งที่เหมือนกันคือมีเป้าหมายเหมือนกันคือทำให้บรรลุเป้าหมายขององค์กรอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
การบริหารและการจัดการต่างกันอย่างไร???
1. การมุ่งหวังผลกำไร
การบริหาร (Administration) เป็นกระบวนการดำเนินการระดับการกำหนดนโยบาย
หรือกระบวนการบริหารงานใดๆ ขององค์การที่ไม่ต้องการผลกำไรหรือผลประโยชน์ขององค์การ
ผู้บริหารพยายามบริหารงานให้เป็นไปตามเป้าหมายขององค์การ
ผลสำเร็จขององค์การมิได้คำนึงถึงผลตอบแทนที่สมาชิกจะได้รับ แต่ การจัดการ (Management)
เป็นกระบวนการบริหารงานใดๆ
ขององค์การที่ต้องการกำไรโดยผู้จัดการจะต้องทำให้องค์การบรรลุเป้าหมายเพื่อให้องค์การอยู่รอดในสภาพแวดล้อมที่ดำรงอยู่
ซึ่งอยู่ในระบบการแข่งขัน
2. กระบวนการดำเนินการ
การบริหาร (Administration)
เป็นกระบวนการในการดำเนินการเพื่อใช้ให้บุคคลหลายคนเข้ามาร่วมมือกันทำงาน
เป็นการวางแผนการใช้ทรัพยากร แต่การจัดการ (Management)
เป็นกระบวนการเป็นการสร้างเครื่องมือเพื่อให้คนทำงานตั้งแต่การบริหารบุคคล
การเงิน พัสดุ การกำหนดนโยบาย การวางแผน
3. การกำหนด
/ การปฏิบัติ
การบริหาร (Administration) เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดนโยบายขององค์กร
สำหรับการจัดการ(Management) คือการนำนโยบายที่กำหนดขึ้นไปปฏิบัติเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้
💗 ทรัพยากรในการบริหาร
**การจัดการหรือการบริหารกิจการต่างๆ จำเป็นต้องมีทรัพยากรอันเป็นปัจจัยพื้นฐานทางการจัดการโดยทั่วไปถือว่าทรัพยากรที่เป็นปัจจัยสำคัญของการจัดการ มีอยู่ 4 ประการ ซึ่งรู้จักกันในนามของ 4 M ได้แก่
1. คน (Man) เป็นผู้ปฏิบัติกิจกรรมขององค์การนั้นๆ
2. เงิน (Money) ใช้สำหรับเป็นค่าจ้างและค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ
3. วัสดุสิ่งของ (Material) อุปกรณ์ เครื่องใช้ เครื่องมือต่างๆ รวมทั้งอาคารสถานที่
4. การจัดการ ( Management) ความรู้เกี่ยวกับการจัดการ
**ในด้านธุรกิจเอกชนหรือการจัดการธุรกิจ ได้กล่าวถึงปัจจัยการจัดการไว้ว่ามี 6 M โดยเพิ่มเรื่องตลาดจำหน่ายสินค้าและเครื่องจักรกล แต่ในปัจจุบันปัจจัยของการจัดการยุคใหม่ มีกล่าวไว้ถึง 8 ประการหรือ 8M โดยเพิ่มปัจจัยอีก 2 ปัจจัย คือ ปัจจัยด้านวิธีการทำงานและปัจจัยด้านเวลา มีรายละเอียด ดังนี้
1. คน (Man) เป็นผู้ปฏิบัติกิจกรรมขององค์การนั้นๆ
2. เงิน (Money) ใช้สำหรับเป็นค่าจ้างและค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ
3. วัสดุสิ่งของ (Material) อุปกรณ์ เครื่องใช้ เครื่องมือต่างๆ รวมทั้งอาคารสถานที่
4. การจัดการ ( Management) ความรู้เกี่ยวกับการจัดการ
5. ตลาด (Market) เป็นที่สำหรับจำหน่ายสินค้าและบริการ
6. เครื่องจักรกล ( Machine) ใช้สำหรับผลิตสินค้าและบริการ
7. วิธีการทำงาน (Method) หมายถึง วิธีขั้นตอนในการทำงาน
8. เวลา (Minute) เวลาในการดำเนินงาน
***************************************************************************
*** ส่วนผสมทางการตลาดสมัยใหม่ ***